วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ฉันหายไปในวันหยุด : ความเหงาผสมความอบอุ่น กับปมปัญหาในใจ

      

                 ฉันหายไปในวันหยุด ที่ผมจะพูดถึงนี้คือแบบที่เป็นฉบับการ์ตูนลิขสิทธ์โดย Tko ซึ่งออกมานานเป็นปีแล้ว หลายท่านอาจจะเคยได้อ่านผ่านมาแล้ว ทั้งในฉบับที่เป็นมังงะหรือจะเป็นเวอร์ชั่นนิยาย แต่ถ้าท่านใดยังไม่เคยอ่าน เราลองมาทำความรู้จักกับเรื่องนี้กันเถอะครับ
                ฉันหายไปในวันหยุด เป็นผลงานที่มาจากนิยายในชื่อเดียวกันของนักเขียนชื่อดังของญี่ปุ่นนามว่า โอตสิ อิจิ ซึ่งมีผลงานนิยายแนวลึกลับที่มีสไตร์การเขียนเฉพาะตัวออกมามายมายหลายต่อหลายเรื่อง บางเรื่องได้กลายเป็นภาพยนตร์ และจุดเริ่มที่ทำให้ผมหันมาติดตามงานของโอตสึ อิจิ ก็เริ่มมาจากภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเรื่องสั้นของเขานั่นเอง
                ถ้าให้เรียงลำดับการติดตาม ผมเริ่มจากบังเอิญได้ดูภาพยนตร์ จากนั้นก็ไปหานิยายมาอ่าน แล้วพอ tko ออกในแบบมังงะ มา ก็เลยซื้อมาเลยทันที
                สำหรับในฉบับมังงะนี้ ได้นักวาดซึ่งหลายๆ คนรู้จักกันในปัจจุบันมาวาด นั่นคือ คุณ Hiro Kiyohara ที่บอกว่าหลายคนรู้จักเพราะคุณ Hiro Kiyohara คนนี้วาดงานหลายๆ เรื่องให้กับ โอตสิ อิจิ เช่น โทรศัพท์สลับมิติ, บาดแผล, รวมไปถึงงานเรื่อง Another อนิเมะที่พึ่งออกฉายไปตอนช่วงต้นปีซึ่งคงผ่านตาหลายๆ ท่านไปแล้ว ในรูปแบบมังงะเขาก็เป็นคนรับหน้าที่วาด เอาเป็นว่าโม้ไปเยอะแล้วพอแค่นี้และกันเข้าสู่เนื้อหาเลยดีกว่า

                ฉันหายไปในวันหยุดเป็นเรื่องราวของนาโอะ เด็กสาวซึ่งตอนเล็กๆ อาศัยอยู่กับแม่สองคนในห้องเช่าแคบๆ โดยแบกรับชีวิตยากจนที่แสนจะลำบาก วันดีคืนดีชีวิตน้อยๆ นั่นก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลันจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะแม่ของตนแต่งงานใหม่กับเศรษฐีผู้ร่ำรวย เด็กน้อยจึงได้พบชีวิตใหม่ที่สุขสบายมีคนคอยเอาอกเอาใจอยากได้อะไรก็ต้องได้จนกลายเป็นความเคยตัวแต่ก็มีจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญอีกครั้ง เมื่อแม่ของตนเกิดป่วยและเสียชีวิตไปในสองปีต่อมา
                หลังจากเสียแม่ไปเด็กน้อยเริ่มตระหนักถึงเรื่องสำคัญที่ว่าผู้เป็นพ่อนั้นไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของตนสักวันตนเองอาจจะถูกขับไล่ออกไปจากบ้านจากชีวิตที่สุขสบายนี้ก็เป็นได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปถึงจะไม่เกิดเรื่องราวแบบนั้นและชีวิตที่สุขสบายก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่ช่วงว่างเล็กๆ ในใจในเรื่องที่ไม่ใช่ลูกก็ยังคงหลงเหลืออยู่ไม่จางหาย และแล้ววันนึงพ่อเลี้ยงของตนก็แต่งงานใหม่ จุดเริ่มของปมปัญหาของเรื่องจึงเริ่มขึ้น

                ตัวเอก นาโอะ เด็กสาวในวัยรุ่น ซึ่งไม่พอใจที่พ่อเลี้ยงของตนจะแต่งงานใหม่และก็ไม่ชอบคนที่จะมาเป็นแม่เลี้ยงของตน จนมีเรื่องกระทบกระทั่งมีปากเสียงกันบ่อยๆ นาโอะจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้าน และตามมาด้วยการวางแผนลักพาตัวเอง โดยมี คนรับใช้ (สาวแว่นในชุดเมด! ) ท่าทางโก๊ะๆ ซุ่มซ่าม ที่ทำงานอยู่ในบ้านของตนถูกบังคับให้ร่วมมือด้วย
                โดยแผนการณ์ ดำเนินไปในตอนแรกๆ แบบง่ายๆ โดยที่นาโอะใช้วิธีการหลบซ่อนอยู่ในห้องของ สาวใช้ คุนิโกะ แล้วคอยส่งคุนิโกะออกไปสืบดูว่า พ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงคนใหม่ของตนจะรู้สึกเช่นไรที่ตนหายไป แต่เรื่องราวกลับบานปลายขึ้นไปเรื่อยๆ จากการกระทำที่เกิดความความน้อยใจจากการหลบซ่อนเพื่อรอดูความกระวนกระวายของคนในบ้านแผนการณ์ของเด็กสาวก็เริ่มจะใหญ่ขึ้นไปอีก จนกลายเป็นการจับตัวเองเรียกค่าไถ่ และแล้วเรื่องราวก็ไปถึงตำรวจจนได้ นาโอะจะทำเช่นไรต่อไป เรื่องราวจะคลายปมที่ตรงไหนหรือมีเรื่องตื่นเต้นหักมุมดุเดือดเลือดพร่านอะไรยังไง ไปติดตามกันภายในเล่มนะครับ 

                ความคิดเห็นโดยส่วนตัว เรื่องราวในฉบับมังงะ เล่มเดียวจบ เดินเรื่องได้กระชับ เรื่องราวยังคงไว้ซึ่งอารมณ์เหงาๆ ตามสไตร์งานเขียนของโอตสิ อิจิ ที่ในนิยายทุกเรื่องจะแฝงซึ่งความเหงาความโดดเดี่ยวของตัวละครและการเข้ากันไม่ได้กับสังคมหรือคนรอบข้าง การตั้งคำถามเดี่ยวกับชีวิตหรือการโหยหาอะไรบางอย่าง ถือว่าคนวาดสื่อสารความเป็นเอกลักษณ์ของตัวนิยายต้นฉบับออกมาได้ดี คาแรคเตอร์ตัวละครออกแบบได้น่ารัก สาวใช้คุนิโกะ มีความน่ารักโก๊ะๆ ส่วนนาโอะตัวเอกของเรื่องก็ดูแก่นแก้วจนเชื่อได้ว่า ยัยคนนี้ร้ายกาจจนถึงขนาดก่อเรื่องใหญ่ๆ ได้แน่ๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำของมาโอะนั้นก็เป็นการกระทำที่มีที่มาที่ไปว่าเพราะอะไรถึงทำแบบนั้นตอนที่ทำรู้สึกอย่างไร ส่วนปมต่างๆ ภายในเรื่อง และการแก้ปมนั้นๆ ทำได้ค่อนข้างลงตัว เรื่องราวอ่านง่าย เข้าใจง่าย ไม่ยุ่งยากจนเกินไป อ่านไปตั้งแต่ต้นจนจบก็จะเห็นถึงการเติบโตของตัวละครซึ่งอาจจะทำให้คุณประทับใจไม่มากก็น้อย 
              (เอาเป็นว่าสนุกกับการอ่านและกันนะครับ)


วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

นักเรียนพี่เลี้ยงเด็ก [manga review]



นักเรียนพี่เลี้ยงเด็ก (GAKUEN BABYSITTERS)
                เขียนโดย  Hari Tokeino
                ลิขสิทธิ์ในไทยโดย SIC

                ครั้งแรกที่ผมเห็นการ์ตูนเรื่องนี้ผมไม่ค่อยสนใจสักเท่าไรเพราะชื่อเรื่องไม่ค่อยดึงดูด ส่วนหน้าปกก็เฉยๆ ไม่มีอะไรช่วนให้ประทับใจจนอยากจะควักสตางค์ออกมาซื้อ พอพลิกไปอ่านคำโปรยด้านหลัง เนื้อความประมาณว่า
                พ่อแม่ของริวอิจิกับโคทาโร่ น้องชายตัวกระจ้อยประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตจึงไปอยู่ในความดูแลของผู้อำนวยการโรงเรียนโมริโนะมิยะแต่เงื่อนไขแลกเปลี่ยนคือ ให้ริวอิจิเป็นพี่เลี้ยงเด็กในห้องอนุบาลเด็กของโรงเรียน ริวอิจิที่ต้องรับมือกับเด็กน้อยจอมพลังทั้งหลายจะทำอย่างไร…” อะไรประมาณนี้
                ผมรู้สึกสนใจตรงที่พลอตมันดราม่าแต่คิดว่าไม่มากเพราะมันมีเกี่ยวกับการเป็นพี่เลี้ยงเด็กมาเกี่ยวด้วยความอยากรู้ว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงไปในทิศทางไหนจะเน้นดราม่าชะตะกรรมสองพี่น้องหรือจะเป็นแนวเน้นความน่ารักของการเลี้ยงเด็กตามแบบการ์ตูนที่ขายความน่ารักสดใสของเด็กน้อย ก็เลยลองซื้อมาอ่านซะ
                ก่อนจะพูดถึงความรู้สึกหลังจากการอ่าน ขอพูดเกี่ยวกับรายละเอียดก่อนก็แล้วกัน

                นักเรียนพี่เลี้ยงเด็ก เป็นผลงานของคุณ Hari Tokeino ซึ่งผลงานอื่นๆ ของนักเขียนท่านนี้ ที่มีลิขสิทธิ์ในไทยก็มี Honey วุ่นรักสลับขั้ว ,ลุ้นรักหนุ่มนินจา (บงกช) อยู่กับพี่ไม่มีเหงา 11 เล่มจบ (สยาม)

                สำหรับเรื่องราวของ นักเรียนพี่เลี้ยงเด็กนั้น เป็นเรื่องราวของสองพี่น้อง ริวอิจิ (มัธยม) กับโคทาโร่ (อนุบาล) เหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของสองพี่น้องครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อพ่อกับแม่ของทั้งสองได้ประสบอุบัติเหตุทางเครื่องบิน ในช่วงเวลาที่ชีวิตกำลังสับสนไร้หนทางไม่รู้ว่าจะต้องไปทางไหนทำอะไรไม่มีใครดูแลนั้น ก็มีคุณยายคนนึงที่เป็น ผอ. โรงเรียนซึ่งสูญเสียลูกชายตัวเองไปในเหตุการณ์เดียวกัน ได้เสนอตัวที่จะอุปการะเด็กทั้งสองโดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือ ริวอิจิต้องรับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงบรรดาลูกๆ ของพวกครูอาจารย์ไปด้วย ควบคู่กับการเลี้ยงน้องชายและการเรียนในโรงเรียนแห่งนั้น ชีวิตใหม่ที่จะต้องดำเนินต่อไปจึงเริ่มต้นขึ้นท่ามกลางความเศร้าความอ่อนแอที่ฝังอยู่ในใจ
                การดำเนินเรื่องจะเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของพี่ชายนิสัยดี อ่อนโยน กับน้องชายตัวเล็กๆ นิสัย เงียบๆ ไม่ค่อยพูดหรือแสดงความรู้สึก ทั้งสองเข้าไปอาศัยอยู่กับ ผู้อำนวยการรุ่นคุณยายที่เป็นคนใจดีแต่ปากแข็ง โดยทุกๆ วัน ริวอิจิจะต้องตื่นแต่เช้าและพาน้องชายมาที่โรงเรียนซึ่งจะมีห้องสำหรับรับเลี้ยงบรรดาลูกๆ ของคุณครูที่สอนอยู่ในโรงเรียนแห่งนั้น ซึ่งริวอิจิจะต้องทำงานช่วยกันกับนายสตาฟชายหนุ่มจอมขี้เกียจพึ่งพาไม่ได้ที่ทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กประจำอยู่ที่นั่นนามว่า โยชิฮิโตะ ดูแลเด็กๆ ที่นั่นตอนช่วงเวลาเช้า พักกลางวันและตอนเย็นก่อนแม่ของเด็กๆ จะมารับ (เว้นตอนที่ตัวเองเรียน) ซึ่งบรรดาเด็กๆ ที่จะต้องดูแลนั้น ก็มีทั้ง แสบซน ขี้แย แก่นแก้วที่พร้อมจะป่วนปั่นวุ่นวายตามแบบของเด็กเล็กๆ ที่ยังไร้เดียงสันแข้งพันขากระจองอแงให้ได้ปวกหัวกันเล็กน้อยแต่ก็น่ารักสมวัย
                ในการดำเนินเรื่องจะเป็นไปแบบเรียบง่าย นำเสนอเกี่ยวกับเรื่องราวความน่ารักของเด็กๆ ที่อ่านแล้วอมยิ้ม สอดแทรกด้วยเรื่องดราม่าเล็กๆ ที่ไม่เศร้าจนเกินไปออกไปทางอบอุ่นหัวใจเสียมากกว่าและมีเรื่องฮาๆ ด้วยเป็นระยะ โดยที่แต่ละตอนจะมีริวอิจิกับน้องชายเป็นตัวดำเนินเรื่องและมีตัวละครอื่นๆ ค่อยๆ แวะเวียนเข้ามาสลับสับเปลี่ยนกันไปในแต่ละตอน ทั้งเด็กสาวเรียนเก่งแต่ปากร้าย คุณแม่ที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมการแสดงผู้มุ่งมั่นกับงานจนไม่มีเวลาดูแลลูกสาว และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งในแต่ละตัวละครในแต่ละเรื่องราวล้วนแล้วแต่มีปมปัญหาของตนโดยจะสอดแทรกเนื้อหาที่เกี่ยวกับครอบครัว ความรัก ความสดใสที่อ่านแล้วให้พลังใจกับข้อคิดดีดีอีกมากมาย ซึ่งในความเห็นของผมนั้นผมว่าเนื้อหาครบรสอ่านได้ทุกเพศทุกวัย 

                หลังจากอ่านจบผมคิดว่าการ์ตูนเล่มนี้เป็นการ์ตูนที่มีเนื้อหาดีมากเรื่องนึงเลยทีเดียว และอยากจะเชียร์ให้ทุกๆ ท่านที่ผ่านเข้ามาเห็นสิ่งที่ผมเขียนได้ลองอ่านลองติดตามเรื่องราวความเป็นไปของบรรดาตัวละครต่างๆ ในเรื่องนี้ไปด้วยกัน บางทีท่านอาจจะรู้สึกชอบเหมือนกันกับผมก็เป็นได้
              

               

วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เพื่อนเกรียนข้างโต๊ะ [manga review]



เพื่อนเกรียนข้างโต๊ะ [manga review]
                เขียนโดย Takuma Morishige
                ลิขสิทธิ์ในไทยโดย วิบูลย์กิจ
                เพื่อนเกรียนข้างโต๊ะ หรือ Tonari no sekikun เป็นการ์ตูนขายขำ นำเสนอเรื่องราวแบบฮาเล็กๆ ระหว่างชั่วโมงเรียนที่อาจจะทำให้เราได้ย้อนกลับไปนึกถึงเรื่องราวของเพื่อนเกรียนร่วมชั้นและวีรกรรมเก่าๆ ที่เราอาจจะเคยเจอเพื่อนข้างโต๊ะที่เล่นอะไรเกรียนๆ หรืออาจจะเคยเกรียนซะเอง หรือเกรียนกันทั้งคู่ แต่ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นความสนุกที่นึกถึงแล้วอมยิ้มได้เสมอ

                เพื่อนเกรียนข้างโต๊ะ เป็นเรื่องราวของ โยโกอิ หญิงสาวที่พยายามตั้งใจที่จะเรียนหนังสือแต่เพื่อนนักเรียนโต๊ะติดกันอย่าง เซกิ กลับตั้งใจที่จะเล่น ซึ่งไอ้การละเล่นแต่ละอย่างของเซกินั้นเป็นการละเล่นระหว่างชั่วโมงเรียนที่สุดแสนจะน่าสนใจ การเล่นบางชนิดก็อลังการงานสร้าง อุปกรณ์บางอย่างที่เอามาประกอบการเล่นก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่านายเซกิของเราอะไรมันจะทุ่มกับการเล่นได้ถึงขนาดนี้จนอดไม่ได้ที่แอบดูว่าเขากำลังจะทำอะไรจะเอาของเล่นอะไรมาเล่นอีกบ้าง การเล่นบางอย่างของเซกิก็น่าสนุกเสียจนต้องลุ้นตามไปด้วย ของเล่นบางอย่างที่เพื่อนเกรียนข้างโต๊ะคนนี้นำมาก็น่ารักเสียเหลือเกิน สุดท้ายสาวน้อยผู้มีความพยายามที่จะตั้งใจเรียนจะสมาธิหลุดกระเจิดกระเจิงมัวแต่สนใจมานั่งดูเขาเล่นจนไม่เป็นอันเรียนซะอย่างงั้น แถมเป็นไปเสียทุกครั้งเสียด้วยสิ แล้วการละเล่นการเกรียนของเซกิคุงเพื่อนข้างโต๊ะจอมเกรียนนั้นคืออะไร เขากำลังเล่นอะไร ทำไมถึงได้น่าสนใจขนาดนั้น มันน่าสนใจมากขนาดที่ว่าทำให้สาวน้อยที่พยายามจะตั้งใจเรียนตั้งสมาธิหลุดจนไม่เป็นอันตั้งใจเรียนหนังสือได้เลยเหรอ อันนี้ต้องลองไปติดตามกันดูนะครับ แต่การละเล่นระหว่างการเรียนภายในเรื่องบางอย่างมันไม่เกินไปจากที่พวกเราๆ เคยเล่นกันสมัยเด็กสักเท่าไรหรอกเพียงแต่การนำเสนอในการเล่น การบอกเล่าวีรกรรมความเกรียนที่ทางผู้เขียนนำเสนอบอกเล่ามานั้นนำเสนอออกมาได้น่าสนใจมาก จนให้เกมเหล่านั้นที่บางอย่างเหมือนจะธรรมดาแต่กลับดูแล้วสนุกน่าสนใจอย่างมาก

                ในด้านตัวละคร เซกิ เด็กเกรียนของเราเป็นตัวละครที่ออกแนวอัจฉริยะในด้านการคิดค้นประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ เพื่อประกอบการเล่นของตนเอง แถมเจ้าตัวยังจริงจังกับการทำสิ่งเหล่านั้นจนไม่สนใจใคร เป็นตัวละครที่ต้องติดตามกันไปว่าแต่ละวันสิ่งที่เขาทำสิ่งที่เขาคิดจะออกมาเป็นอะไรเป็นของแบบไหน เป็นเกมอะไร น่าสนใจขนาดไหน
                ส่วน โยโกอิ สาวน้อยโก๊ะหน่อยๆ น่ารักนิดๆ ของเราเป็นตัวเดินเรื่องที่ทำให้เรื่องนี้ลื่นไหลดีเพราะคุณเธอจะคล้อยไปตามการกระทำของ เซกิคุงอยู่เสมอ ตั้งใจเรียนอยู่ดีดี พอเห็นเซกิคุงที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ เล่นเท่านั้นก็ไม่เป็นอันเรียนแถมบางตอนก็โดดลงไปเล่นด้วยเฉยเลย ในด้านนิสัยก็ถือว่าเป็นตัวละครที่น่ารักน่าสนใจว่าต่อไปเธอจะทำอะไรต่อไป จะพยายามตั้งใจเรียนให้ได้ หรือในเมื่อห้ามตัวเองไม่ให้สนใจเขาไมได้ก็หยุดการเล่นของเขาที่ทำลายสมาธิของเธอเสียเลยดีมั้ย หรือจะยังไง ก็ต้องคอยดูกันต่อไป

                หนังสือการ์ตูนเรื่องนี้ ตอนที่ผมเขียน รีวิวนี้ พึ่งออกมาเล่มเดียว ถ้าคุณสนใจการ์ตูนตลกสักเล่มที่อ่านแล้วยิ้มได้เรื่อยๆ ก็ลองดูครับ อาจจะชอบก็ได้

               

วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Blood lad แวมไพร์พันธุ์ลุย [manga review]



Blood lad แวมไพร์พันธุ์ลุย
                เขียนโดย Yuuki KODAMA  
                ลิขสิทธ์ในไทยโดย SIC 

                เรื่องราวย่อๆ ของ Blood lad (หลังปกของเล่ม1) มีอยู่ว่า ในโลกปีศาจที่แบ่งการปกครองออกเป็นอาณาเขตต่างๆ มีผีดูดเลือดชื่อสตาซเป็นหัวหน้าคุมเขตแดนหนึ่งอยู่ สตาซซึ่งเกลียดชีวิตผีดูดเลือดทว่ากับคลั่งไคล้วัฒนธรรมญี่ปุ่นจู่ๆ ก็ได้พบกับ ยานางิ ฟุยุมิ สาวน้อยจากญี่ปุ่นซึ่งเป็นมนุษย์ที่หลงเข้ามา สตาซตกหลุมรักในทันที แต่แล้วในระหว่างที่กำลังจัดการกับผู้บุกรุกที่หวังจะมายึดอาณาเขตตน ฟุยุมิก็โดนมอนสเตอร์จับไปกินจนเสียชีวิต สตาซจิตใจห่อเหี่ยวเพราะฟุยุมิกลายเป็นวิญญาณไร้เสน่ห์ได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะทำให้เธอกลับมามีชีวิตอีกให้ได้

                จากที่ได้ลองอ่าน Blood lad เป็นการ์ตูนที่อ่านแล้วไม่ต้องคิดอะไรมาก เนื้อหาในเล่มแรกๆ ผมมองว่ายังไม่ถึงกับเข้มข้นดุเดือดสักเท่าไร เน้นเล่าเกี่ยวกับคาแรคเตอร์ของตัวละครความสามารถและเปิดเรื่องราวต่างๆ ของโลกปีศาจเสียมากกว่า แต่ในอนาคตคงจะเข้มข้นและแอ็คชั่นมันขึ้นเรื่อยๆ
พระเอก สตาซ เป็นผีดูดเลือดเป็นปีศาจที่มีฝีมือเก่งกาจเป็นผู้ปกครองอาณาเขตที่มีลูกน้องเคารพนับถือแต่นิสัยลึกๆ กลับสวนทางกับสิ่งที่ตัวเองเป็น เป็นผีดูดเลือดที่ชอบเล่นเกมส์ อ่านการ์ตูน หลงไหลวัฒนธรรมมนุษย์โดยเฉพาะอะไรก็ตามที่เป็นญี่ปุ่น และสำคัญที่สุด เขาหลงไหลมนุษย์ผู้หญิง ตอนที่เจอนางเอกครั้งแรก นางเอกหลงเข้ามาในโลกปีศาจเขาที่ได้พบก็ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว ส่วนในด้านอื่นๆ ก็ส่วนใหญ่จะออกแนวเกรียนเล็กน้อย และยังมีปมอีกมากมายที่ยังต้องติดตามกันต่อไปทั้งในเรื่องประวัติส่วนตัว เรื่องอดีต เรื่องความสามารถ ถือว่าเป็นคาแรคเตอร์พระเอกที่น่าสนใจพอสมควรมีอะไรให้ติดตามได้และไม่ได้มีความเป็นพระเอกที่ดีแสนดี เกรียนๆ แบบนี้สามารถก่อเรื่องให้เราได้อ่านกันได้อีกเยอะ
ส่วนนางเอก จากที่อ่านไปสองเล่มนางเอกของเรื่องนี้ เป็นสาวจืดที่ออกแนวไม่เอาไว้โดนรังแกโดยเฉพาะเลยทีเดียว ปรากฏมาในตอนแรกที่เป็นมนุษย์ยังได้มีบทพูดไม่กี่คำตัดฉากมาอีกครั้งโดนกินกลายเป็นวิญญาณซะงั้น แต่หลังจากนั้นมาพออ่านไปเรื่อยๆ ก็มีมุมที่น่ารักขึ้นเรื่อยๆ เป็นนางเอกที่เหมาะสมกับพระเอกเกรียนๆ แบบนี้ดี

ในด้านเนื้อเรื่อง เรื่องราวดำเนินไปเป็นการเดินทางตามหาวิธีการชุบชีวิตนางเอกซึ่ง สตาซ พระเอกของเราต้องไปตามหาเบาะแสตามสถานที่ต่างๆ ในโลกปีศาจ ต้องกับการต่อสู้กับมนุษย์หมาป่าเพื่อชิงตำราคืนชีพมนุษย์ และเรื่องราวที่เป็นปมที่ต้องคลายขึ้นเรื่อยๆ และต้องพบกับเหตุการณ์อีกมากมายที่จะต้องติดตามกันต่อไป

โดยรวมแล้วการ์ตูนเรื่องนี้จากที่ได้อ่านของ SIC ไปสองเล่ม ผมยังรู้สึกกลางๆ คงเพราะเนื้อเรื่องสองเล่มยังไปไม่ไกลมากล่ะมั้ง ซึ่งคงจะต้องติดตามต่อไปว่าเรื่องราวจะมีอะไรเข้ามาอีกบ้าง แต่สำหรับท่านที่ได้อ่านเลยจากสองเล่มที่ SIC ออก ก็คงจะได้รู้กันแล้วว่าเรื่องราวต่อไปนั้นเป็นยังไงสนุกขนาดไหน 

ใครที่สนใจจะอ่านการ์ตูนแนวปีศาจที่มีความเป็นวัยรุ่นเกรียนนิดๆ ฉากแอคชั่นพอใช้ได้ พระเอกบ้าดีเดือดดีแต่บางทีก็เกรียนแตกบางทีก็ติงต๊อง นางเอกแนวจืดจาง มีตัวละครอื่นๆ อีกมากมายหลากหลายอ่านแล้วยิ้มเป็นระยะขำนิดๆ ก็ลองดูครับ
                               

วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

[Review] D-FLAGMENT! ชมรมรั่วมหากาฬ! (แบบสั้นๆ)



D-FLAGMENT! ชมรมรั่วมหากาฬ! 

ผลงานโดย TOMOYA HARUNO
ลิขสิทธิ์ในไทยโดย  Luckpim

                ก่อนอื่นขอพูดถึงเรื่องราวแบบย่อก่อน ชมรมรั่วมหากาฬ เป็นเรื่องราวของ คาซามะ เค็นจิ พระเอกของเราซึ่งเป็นตัวละครประมาณ นักเลง หัวโจก เด็กแสบ หรือเด็กเฮี้ยว อะไรก็ว่าไป วันดีคืนดี คาซามะ เกิดจับพลัดจับผลู พาตัวเองเข้าไปในชมรมสร้างสรรค์เกม คาซามะได้พบกับสมาชิกชมรมที่สุดแสนจะรั่ว (รั่วทั้งเรื่องรั่วทุกคนเรื่องนี้) และเหตุการ์ที่ค่อนข้างจะไร้สาระ หลังจากนั้นคาซามะพระเอกของเราก็โดนจับ (ขู่เข็ญ บังคับ ทรมาน) ให้เป็นสมาชิกชมรม และเรื่องราวของคาซามะที่ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ที่ต้องมาเป็นสมาชิกชมรมที่รวมเหล่าสาวรั่วที่สุดแสนจะน่ารัก? เอาไว้ก็เริ่มต้นขึ้น
                สำหรับเรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรมาก เรื่องราวเน้นรั่ว ฮา ออกแนวไม่ต้องคิดอะไรมาก ตัวละครมีคาแรคเตอร์หลากหลายซึ่งแน่นอนว่าแต่ละตัวละครรั่วกันกระจาย ส่วนพระเอกของเรามาตอนแรกเป็นเด็กเฮี้ยวแต่พอเข้าไปอยู่ในชมรมสร้างสรรค์เกมดันกลายเป็นตัวตบมุขให้คนอื่นซะงั้น แต่บางทีก็รั่วซะเองเหมือนกัน ส่วนเหตุการณ์และเรื่องราวภายในเรื่องหาสาระไม่ค่อยจะได้เพราะเน้นฮาไปเรื่อยเป็นหลัก แต่ก็มีเรื่องราวน่ารักๆ เหมือนกันนะ
                ในความคิดผมการ์ตูนเรื่องนี้ เหมาะสำหรับอ่านกันขำขำแบบไม่ต้องคิดอะไรมากมาย ลายเส้นพอใช้ได้ เรื่องราวก็สนุกพอสมควรตบมุขกันไปมาแบบขายความฮาบ้าๆ บวมๆ ตลอดทั้งเรื่อง และที่ชอบที่สุดในเรื่องนี้คงเป็น คาแรคเตอร์และลักษณะของตัวละคร เรื่องนี้มีตัวละครที่มีคาแรคเตอร์แตกต่างกันมากมายหลากหลายโผล่เข้ามาร่วมกันรั่วร่วมกันต๊องแบบไม่แคร์บุคลิก บางตัวละครก็ออกแนวเพี้ยนแบบสุดๆ แต่แค่เฉพาะตัวเอกสาวๆ สมาชิกชมรมสร้างสรรค์เกมของเรา กับท่านประธานชมรมสร้างสรรค์เกมที่แท้จริง ? ก็ฮาและรั่วกันกระจายอยู่แล้ว เพราะงั้นถ้าใครชอบการ์ตูนแนวอ่านสบายๆ เน้นรั่วเป็นหลัก ก็ลองดูนะครับ


ปล. นี่เป็นรีวิวครั้งแรก เขียนแบบติดๆ ขัดๆ ไปบ้าง ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ